ร้อยไหมยกกระชับ (Thread Lifting)

การร้อยไหม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า และผู้ที่ต้องการมีใบหน้าที่เรียวเข้ารูปสวยงาม (V-shape) แม้ว่าในปัจจุบันการร้อยไหมได้รับความนิยมอย่างมาก แต่สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจยกกระชับใบหน้าด้วยเทคนิคนี้ คือ จะต้องรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสถานพยาบาลที่ได้รับมารฐานเท่านั้น
โดยปกติแล้วเส้นไหมที่ใช้เป็นชนิดละลายได้ หรือ PDO ย่อมาจาก Polydioxolane เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 6-7 เดือน ร่างกายจะทำการกำจัดออกได้เอง ทั้งนี้บริเวณที่มีการร้อยไหมจะเกิดการกระตุ้นการสร้างเซลล์เส้นใยคอลลาเจน โดยเส้นใยดังกล่าวนี้จะมาเกาะบริเวณรอบๆ แนวเส้นไหม ควบคู่ไปกับการสร้างเส้นเลือดใหม่ ทำให้เกิดการตึงรั้งผิวบริเวณนั้นๆ ช่วยยกกระชับผิว แถมยังมีผลดีกับการไหลเวียนของเลือดในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย เลยทำให้เทคนิคนี้ถูกนำไปใช้กับการฟื้นฟูใบหน้า และ ยกกระชับผิวตามจุดต่างๆ เช่น การยกกระชับผิวบริเวณหนังตา การแก้ไขคิ้วตก การยกกระชับร่องแก้มและมุมปาก หรือการยกกระชับบริเวณอื่นๆ ที่ขาดคอลลาเจน ให้กลับมาอ่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ข้อดีของการร้อยไหม
การรักษาด้วยวิธีการการร้อยไหม เป็นการแก้ปัญหาผู้ที่มีผิวพรรณหย่อยคล้อยอย่างตรงจุด เพราะสามารถยกกระชับผิวและฟื้นฟูใบหน้ารวมถึงบริเวณคอให้ดูอ่อนวัย เต่งตึง ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึงดูย้อนวัยมากขึ้น จุดเด่นของการร้อยไหมนั้น คือ ไม่เจ็บมาก ไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า เห็นผลชัดเจนทันทีหลังจากทำเสร็จ และที่สำคัญ สามารถทำการรักษาควบคู่กับ Ulthera และ โบท๊อกซ์ ลดกรามหรือริ้วรอยได้เป็นอย่างดี นอกจากเทคนิคการร้อยไหมยังสามารถนำมาปรับแต่งโครงสร้างปีกจมูกให้แคบลง หรือ ยกปลายจมูกให้เชิดสูงขึ้นได้อีกด้วย
ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

เห็นผลเมื่อไร และอยู่ได้นานแค่ไหน?
ตามที่เรียนไปข้างต้น ผู้รับบริการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการร้อยไหมทันที และจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาประมาณ 1 – 2 เดือนหลังเข้ารับการร้อยไหม โดยประสิทธิภาพการฟื้นฟูใบหน้า ยกกระชับผิวจะส่งผลให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด คือหลังจากเข้ารับการร้อยไหมไปแล้วประมาณ 4 - 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความคงทนของสภาพใบหน้าหลังจากการร้อยไหมนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวคนไข้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และการดูแลรักษาตัวเอง ทั้งนี้หัวใจหลักๆในการดูแลใบหน้าให้อ่อนวัย คือ การรักษาคอลลาเจนให้ยังคงอยู่บนใบหน้าให้นานที่สุด ซึ่งสามารถปฎิบัติได้ง่ายๆดังนี้
-
งดนอนดึก
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-
กินอาหารที่เป็นประโชยน์
-
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-
งดสูบบุหรี่
ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวหน้าเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็ว