ปลูกถ่ายเซลล์รากผม (Hair Restoration)


About our Hair Unit
แผนกปลูกผม (Hair Retoration Surgery Centre) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 มีวัตถุประสงค์เพื่อการแก้ไขปัญหาของคนไข้อย่างตรงจุดด้วยวิธีที่ได้ผล ปลอดภัย หยุดปัญหาผมร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณกลับมามีเส้นผมทั่วทั้งหนังศีรษะอีกครั้ง ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างแม่นยำ โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์ปัญหาของเส้นผม และหนังศีรษะ
เทคนิคการรักษา
สำหรับเทคนิคปลูกถ่ายเซลล์รากผมที่ใช้กฤตยะคลินิกใช้นั้น เป็นเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งถือได้ว่าเป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับจากศัลยแพทย์ปลูกถ่ายเซลล์รากผมชั้นนำทั่วโลกอย่างแพร่หลาย โดยเส้นผมจะมีการฟื้นตัวหนาขึ้นอย่างชัดเจนจนคนไข้พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีของวิธีปลูกถ่ายเซลล์รากผมด้วยเทคนิค FUE คือไม่มีแผลผ่าตัด เพราะไม่ต้องเลาะตัดหนังศีรษะของคนไข้ออกมาเป็นแนวยาวเหมือนเทคนิคอื่นๆ แต่เป็นการใช้เครื่องมือเก็บเซลล์รากผมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กมาก (ประมาณ 1 มิลลิเมตร) โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มเก็บเอาเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยด้านหลัง (donor site) ซึ่งถือว่าเป็นบริเวณที่เส้นผมมีสุขภาพแข็งแรง มีความสมบูรณ์ที่สุด ก่อนย้ายไปปลูกถ่ายในบริเวณที่ผมบาง หรือไม่มีผม (recipient site) หลังการปลูกผม คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก โดยเส้นผมจะค่อยๆขึ้นและหนาอย่างชัดเจนภายใน 6-8 เดือน
ก่อนการรักษา
ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจสุขภาพผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (classification) โดยแพทย์จะทำการประเมินถึงจำนวนรากผมที่ต้องย้ายไปปลูกส่วนที่ล้าน ทั้งนี้โดยปกติแล้วอาจมีจำนวน 500 – 1500 รากผม (hair graft) ซึ่งปริมาณเซลล์รากผมที่ต้องใชันั้น ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและปริมาณผมของผู้เข้ารับบริการ
ระหว่างการรักษา
-
ตรวจสภาพความหนาแน่นของผมอีกครั้งก่อนรักษา
-
ออกแบบแนวการปลูกผมของคนไข้แต่ละคน
-
แพทย์ทำการฉีดยาชา หรือให้คนไข้ทานยานอนหลับแบบอ่อนๆ
-
แพทย์จะทำการเก็บเซลล์รากผมจากด้านหลังบริเวณเหนือท้ายทอย
-
แพทย์จะทำการคัดแยกเซลล์รากผม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนนำไปปลูกในพื้นที่ที่เส้นผมเบาบาง
-
นำเซลล์รากผมที่ได้รับการคัดแบ่งแล้ว มาปลูกตามแนวผมที่ได้ออกแบบไว้ตอนต้น
ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE
-
หลังการปลูกถ่านเซลล์รากผม ผู้รับการรักษาจะรู้สึกเจ็บแผลด้านหลังน้อยกว่าเทคนิค FUT เพราะไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อออกมา และจะไม่รู้สึกตึงหนังศีรษะ
-
เหมาะกับการปลูกผมที่ใช้จำนวนกอผม(กราฟ)ไม่มากนัก และสามารถเลือกเอาเส้นผมที่มีขนาดเล็กมาปลูกได้ จึงเหมาะกับการปลูกคิ้ว ปลูกขนตาด้วยเช่นกัน
-
สามารถนำขนจากส่วนอื่นๆของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากขนที่นำมาปลูกมีลักษณะหยิก และไม่งอกยาวเหมือนเส้นผมที่หนังศีรษะ จึงอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
คำแนะนำของปลูกผมแบบ FUE
-
รากผมที่ดึงออกจากหนังศีรษะอาจจะขาดและไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษา
-
ใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน ทำให้การปลูกผมแต่ละครั้งได้จำนวนกอผม (กราฟ) ในจำนวนที่จำกัด ทั้งนี้การทำศัลยกรรมปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ไม่ควรทำเกินครั้งล่ะ 1,500-2,000 กราฟ







การปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม
การปฏิบัติตัวทั่วไป
-
หลังการผ่าตัดอาจมีอาการบวมบริเวณหน้าผากได้ ส่วนใหญ่เป็นอาการบวมเล็กน้อยและอาจหายเองภาย ใน 7 วัน ถ้ามีอาการบวมให้ใช้ Clod pack ประคบบริเวณหน้าผาก ระวังไม่ให้โดนบริเวณเซลล์ผม (graft) ที่ปลูกไป จะช่วยทำให้อาการลดลงเร็วขึ้น
-
ช่วง 4 วันแรกอาจสวมผ้ายางยืดรัดหน้าผาก เพื่อลดอาการบวม เพราะคนที่ปลูกผมจะมีอาการบวมบริเวณหน้าผากและตา
-
หลังการผ่าตัดเวลานอนควรนอนหงายหรือตะแคงข้าง ห้ามนอนคว่ำหน้า เพราะทำให้หน้าบวมและอาจทำให้เซลล์ผม (graft) ที่ปลูกหลุดได้
-
เวลานอนควรนอนยกหัวสูง 30 องศา สามารถใช้หมอนหรือผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อน (roll) รองบริเวณต้นคอ เพื่อประคองให้แผลลอยไม่กระทบหมอน ช่วยลดอาการบวม และอาการกดทับแผลบริเวณท้ายทอย
-
ถ้ามีเลือดออกบริเวณที่ปลูกผม แสดงว่าเซลล์ (graft) ที่ปลูกหลุด ให้ใช้ผ้าก๊อซสะอาดกดบริเวณที่มีเลือดออกนาน 3 - 5 นาที ถ้ายังไม่หยุดให้กดนานขึ้นประมาณ 5 – 10 นาที ถ้ายังไม่หยุดให้โทรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล
-
ไม่ควรก้มศีรษะลงหยิบของหรือสวมรองเท้า เพราะจะทำให้เลือดออกและเกิดอาการบวมบริเวณหน้าผากได้ ท่านควรย่อตัวลงเพื่อหยิบของหรือสวมรองเท้า
-
สัปดาห์แรกของการผ่าตัด ควรระวังไม่ให้ศีรษะไปกระแทกของแข็ง เช่น ขอบประตูบ้าน ขอบประตูรถ เพราะอาจจะทำให้เซลล์ผม (graft) ที่ปลูกหลุดได้
-
หลังการผ่าตัดควรงดยกของหนักอย่างน้อย 1 สัปดาห์
-
หลังการผ่าตัดควรพักผ่อน และไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน
การรับประทานยา
-
ก่อนและหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ งดการใช้ยากลุ่ม ASPIRIN และยากลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
-
ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งคัด
-
ควรรับประทานยาแก้ปวดตามเวลาที่แนะนำ อย่ารอจนปวด
-
ให้รับประทานยาแก้อักเสบหลังผ่าตัดจนหมด หรือตามแพทย์สั่ง
เครื่องดื่ม และ บุหรี่
หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์แรก งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (Alcohol) ผสมทุกชนิด เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกและอาการบวม
การออกกำลังกาย
-
ช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลผมเป็นพิเศษ ควรหลีกกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
-
ให้งดว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำหรือทะเล อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
-
งดซาวน่า (Sauna) อย่างน้อย 2 เดือน เนื่องจากความร้อนสูงมีผลต่อรากผมที่ปลูกไป
การสระผม
-
หลังการปลูกผม 1 วัน อย่าเพิ่งสระผม ควรปล่อยให้เลือดแห้งไปเอง โดยไม่ต้องทำแผล และห้ามแกะเกาเด็ดขาด
-
การสระผมครั้งแรกหลังจากการปลูกผม ควรมาสระที่คลินิกโดยให้เจ้าหน้าที่ของคลินิกสอนและแนะนำการสระผมพร้อมทั้งการทำความสะอาดแผลให้ จากนั้นสามารถกลับไปดูแล สระผมด้วยตัวเองได้ในวันที่ 3 หลังทำการปลูกผม
-
ภายใน 1-2 สัปดาห์แรกหลังจากผ่าตัด ควรสระผมทุกวัน โดยใช้แชมพูเด็กสูตรอ่อนโยนสระผม
ข้อแนะนำในการสระผมและทำความสะอาดแผล
แผลบริเวณท้ายทอย
สามารถถูเบาๆ ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สระผม
แผลบริเวณที่ปลูกผม
-
ควร ใช้ น้ำที่มีอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อยในการสระผม ไม่ควรใช้น้ำอุ่นมากในสัปดาห์แรก และไม่ควรใช้กระแสน้ำแรงเกินไป หรือให้ใช้มือบังกระแสน้ำไม่ให้กระทบโดนบริเวณที่ปลูกโดยตรงเพราะจะทำให้ เชลล์ รากผมที่ปลูกหลุดได้
-
เทแชมพูลงผ่ามือและขยี้ให้เป็นฟอง
-
สัปดาห์แรก หลังการผ่าตัด ใช่ฝ่ามือแตะเบาๆบริเวณที่ปลูกผม ห้ามถูหรือขยี้และปล่อยทิ้งไว้ 2 – 3 นาที
-
สัปดาห์ที่ 2 ให้เริ่มถูเบาๆ บริเวณที่ปลูกได้
-
สัปดาห์ที่ 3 ให้เริ่มถูได้แรงขึ้น หลังจากผ่าตัด 1 เดือน ท่านสามารถสระผมได้ตามปกติ
สะเก็ดแผล
-
หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง แผลจะเริ่มแห้ง และจะเริ่มตกสะเก็ดภายใน 2 – 3 วัน ระยะนี้แผลจะดูสีเข้มกว่าปกติและภายใน 1- 2 สัปดาห์ ห้ามแกะ สะเก็ดจะค่อยๆ หลุดร่วง เพราะสะเก็ดที่เราแกะออกมาอาจดึงเอารากผมที่เพิ่งปลูกหลุดมาด้วย รากผมที่หลุดมานั้นอาจจะไม่ขึ้นอีกก็ได้
-
คนไข้ควรรอให้ครบ 2 สัปดาห์ก่อนแล้วค่อยเริ่มล้างสะเก็ดออก ถ้าต้องการให้สะเก็ดหลุดเร็วขึ้นให้ใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ชโลมทั้งบริเวณ ที่ปลูกผมและแผลท้ายทอยหมักทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที ก่อนสระผม ขณะสระผมควรถูเบาๆร่วมด้วย ขั้นตอนนี้จะช่วยให้สะเก็ดนิ่มและหลุดง่ายขึ้น จากนั้นใช้ปลายนิ้วค่อยๆ เขี่ยเบาๆ สะเก็ดก็จะหลุดมา บางครั้งผมที่ปลูกอาจจะหลุดออกมาด้วย แต่ถ้าหลุดในช่วงพ้น 2 สัปดาห์ไปแล้ว ถือว่าปลอดภัย เดี๋ยวผมก็ขึ้นใหม่
-
ไม่ควรใช้เล็บแกะหรือเกาเพราะจะทำให้เลือดออกหรือแผลติดเชื้อได้
อาการแดง
-
อาการแดงของหนังศีรษะบริเวณที่ปลูกผม จะค่อยจางลงภายใน 2 – 3 สัปดาห์ แต่บางรายอาจใช้เวลา 2 – 3 เดือน
-
แผลบริเวณท้ายทอยสีจะค่อยๆ จางลงและหายเป็นปกติใน 5 – 6 เดือน
สิวบนหัว
ในคนไข้บางรายอาจเกิดเม็ดสิวในบริเวณที่ ปลูกผมได้ ท่านไม่ต้องกังวล สิวจะเกิดหลังจากที่ผมร่วงไปแล้ว สาเหตุเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน เนื่องจากผมเส้นใหม่ยังไม่งอกแต่ต่อมไขมันทำงานแล้ว และหลั่งไขมันออกมาเมื่อผมชุดใหม่งอกขึ้นมาปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป ในเบื้องต้นประคบด้วยน้ำอุ่น 15 นาที และทาด้วยยาฆ่าเชื้อบริเวณเม็ดสิว วันละ 3 ครั้ง หรือบีบออกแล้วทายาฆ่าเชื้อ ถ้าไม่ดีขึ้นหรือสิวมีจำนวนมากต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
ผมร่วงจากการผ่าตัด (Shock Loss)
ในคนไข้บางรายที่ปลูกผมแทรกเข้าไปในบริเวณที่มีผมเดิมอยู่ ผมเหล่านั้นอาจจะได้ผลกระทบจากการผ่าตัด อาจมีการหลุดร่วงไปได้แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นมากน้อยแค่ไหน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการร่วงของผมใหม่ที่ปลูกไป คือสัปดาห์ที่ 3 – 4 หลังผ่าตัดและผมร่วงเหล่านี้จะงอกกลับขึ้นมาใหม่พร้อมผมชุดใหม่ที่ปลูกไปคือ 3 – 4 เดือนหลังผ่าตัด
แสงแดด
ในสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องสวมหมวกป้องกัน
การจัดแต่งทรงผม
พยายามหลีกเลี่ยง แต่ถ้าต้องใช้ใช้เจล มูส สเปรย์ สามารถใช้ได้หลังผ่าตัดแล้ว 1 เดือน
ข้อควรจำ
หลังจากผ่าตัดปลูกผมไป 6 เดือน ท่านควรมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการเปลี่ยนแปลงและรับยาบำรุง (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) การปลูกผมต้องใช้ระยะเวลาในการรอคอยนานจนกว่าผมจะขึ้น ผมที่ปลูกจะไม่ได้เริ่มขึ้นหลังวันที่เราปลูก ในระยะแรกเราจะมองเห็นตอผมที่ปลูกได้ แต่หลังจากนั้นผมจะคอยๆร่วงไปใน 3 – 4 สัปดาห์พร้อมกับสะเก็ด จนหมดเหมือนกับเราไม่ได้ปลูกผมมา ท่านไม่ต้องตกใจ เพราะรากผมที่ปลูกจะฝังอยู่ข้างในไม่ได้ร่วงไปกับเส้นผมด้วย ผมจะเริ่มขึ้นใหม่ 3 – 4 เดือน หลังจากนั้นจะค่อยๆ ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเห็นได้ชัดเจนคือหลังจาก 10 เดือนไปแล้ว
** ในช่วง 3 เดือนแรกหลังการปลูกผมไม่ต้องวิตกกังวล ถ้าท่านไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง **