Fractional Laser | Krittaya Clinic
top of page

Fractional Laser

Factional Laser คืออะไร

     นวัตกรรมในการรักษาผิวด้วยเลเซอร์ที่ช่วยให้ดูอ่อนวัยลง การรักษาด้วยวิธีนี้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าแฟรคชันนัล โฟโตเธอร์โมไลซิส (fractional photothermolysis) ซึ่งรักษาผิวทีละส่วนโดยไม่มีการรบกวนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ เนื่องจากเลเซอร์สามารถแทรกลงไปยังเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นแท้ (dermis) โดยแพทย์สามารถเลือกได้ว่าจะรักษาครอบคลุมพื้นที่มากน้อยเพียงใด ทำให้เหมาะสำหรับผิวทุกประเภทและทุกสีผิว การรักษาด้วยวิธีนี้ไม่เจ็บปวดและไม่มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิม ลำแสงเลเซอร์แบบแฟรคชันนัลจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผิวหนังที่อ่อนเยาว์ เนียนและแข็งแรงกว่าเดิมขึ้นทดแทนผิวเก่าที่เสีย

ใครเหมาะกับการรักษา

  1. ริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา

  2. รอยแผลจากสิว

  3. แผลเป็นจากการผ่าตัด

  4. จุดด่างดำและรอยกระที่เกิดตามวัย 

  5. รอยฝ้า

  6. ผื่นผิวหนังที่เกิดจากถูกแสงแดดมาก ซึ่งจัดเป็นมะเร็งในระยะเริ่มแรก

  7. การฟื้นฟูผิวหน้า

ขณะรับการรักษารู้สึกอย่างไร 

     ผู้ที่รักษาด้วยวิธีนี้มักบอกว่ารู้สึกร้อนระหว่างรับการรักษา แพทย์จะทายาชาลงบนผิวก่อนทำการรักษาเพื่อให้ไม่รู้สึกแสบร้อนมากนักและจะใช้ลมเย็นเป่าบริเวณที่รักษาไปด้วย หลังรักษาด้วยเลเซอร์แล้วอาจรู้สึกแสบร้อนใบหน้าเล็กน้อยคล้ายเมื่อถูกแดดเผา ซึ่งจะดีขึ้นภายใน 1–3 ชั่วโมง

ผลลัพธ์หลังการรักษา

     โดยทั่วไปแล้วหากจะให้ได้ผลดีที่สุดควรรักษา 3–5 ครั้ง โดยเว้นระยะครั้งละ 2–4 สัปดาห์ แพทย์จะพิจารณาสภาพผิว จากนั้นจึงทำการนัดเวลารักษาตามความเหมาะสม ซึ่งอาจทิ้งระยะห่างมากกว่านั้นก็ได้ การรักษาด้วยวิธีนี้เห็นผลทันทีและจะเห็นพัฒนาการเมื่อเวลาผ่านไป โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนใน 2–3 เดือน วิธีการรักษาและการทิ้งช่วงเวลาเช่นนี้จะเปิดโอกาสให้ผิวหายเป็นปกติ และร่างกายได้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหาย

  • ทำให้ผิวเรียบ ดูสดชื่นและอ่อนเยาว์กว่าเดิม

  • ช่วยให้สีผิวกระจ่างขึ้นและผิวดีกว่าเดิม

  • ช่วยลดริ้วรอยด่างดำ

  • ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา

  • ช่วยลดรอยแผลจากสิวและแผลเป็นจากการผ่าตัด

คำแนะนำหลังการรักษา

  1. ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30–50 ขึ้นไปวันละหลายๆ ครั้งและหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดแรงๆ พยายามเลี่ยงการถูกแดดอย่างน้อย 3 เดือนหลังจากรับการรักษา หากเลี่ยงแสงแดดไม่ได้จริงๆ ให้สวมเสื้อผ้าปกปิดบริเวณที่รับการรักษาไว้ให้พ้นจากแสง

  2. หากผิวแห้ง ให้ทาครีมบำรุงผิวที่เนื้อครีมบางเบา ข้อสำคัญคือดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

  3. งดใช้สครับขัดผิวเนื้อหยาบและโทนเนอร์อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หลังการรักษาครั้งสุดท้าย ปล่อยให้ผิวได้ฟื้นตัวเป็นปกติก่อนแล้วจึงค่อยเริ่มกรรมวิธีปรนนิบัติผิวตามปกติ โปรดอ่านฉลากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่โดยละเอียด งดใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกหรือกรดเรทิโนอิกสองสัปดาห์ก่อนเริ่มรับการรักษาและงดใช้อีกสองสัปดาห์หลังรับการรักษาแล้ว

  4. ทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว

  5. โปรดแจ้งแพทย์หากเคยเป็นเริมที่ริมฝีปาก

bottom of page